ประวัติสคอโร่

[สึนะ]

ประวัติสควอโล่เป็นนักดาบอันดับหนึ่งที่เคยชนะ เทพกระบี่ ทูล อดีตหัวหน้าของวาเรียลงได้ ทุกคนเคยคิดว่า เขาจะต้องได้เป็นหัวหน้าของวาเรียคนต่อไป แต่เขากลับยกตำแหน่งไปเป็นของ Xanxus เพราะตัวเขาหลงใหลในความโกรธของ Xanxus และเป็นคนที่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังของXanxusมากที่สุดด้วย ในวาเรียสควอโล่เป็นคนที่มีตำแหน่งรองจากบอส ส่วนมากเขาจะเป็นคนที่ทำหน้าที่สั่งการคนในหน่วยเกือบทั้งหมดและยังเป็นคนวางแผนการณ์จัดเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับภารกิจแทบทุกครั้งด้วย เพราะXanxusทั้งที่เป็นบอสแต่กลับไม่เคยทำอะไรเลยแถมยังชอบระบายอารมณ์กลับสควอโล่เป็นประจำด้วยและไม่รู้เพราะอะไรสมาชิกที่เหลือของวาเรียมักอยากให้สควอโล่ไปตายนักและรู้สึกดีใจสุดๆถ้ารู้ว่าสควอโล่ตายแล้ว เขาเป็นคนที่เคยไปถล่มสำนักมาแล้วมากมายเพื่อฝึกปรือวิชาดาบของตัวเอง หนึ่งในสำนักที่เขาเคยไปถล่มมาแล้วนั้นคือ สำนักดาบ ชิงุริโชเอน และเขายังเป็นศิษย์โรงเรียนเดียวกับดีโน่อีกด้วย ในภาคอนาคต สควอโล่ได้ออกฝีกปรือวิชาดาบของตัวเองอีกครั้งโดยการโค่นนักดาบมีฝีมือจากทั่วโลกเป็นจำนวนร้อยคน ก่อนที่จะขนานนามตัวเองว่า "เทพกระบี่รุ่น2" และยังเป็นครูฝึกของยามาโมโตะเพื่อเตรียมรับศึกของเบียคุรันที่จะมาถึงอีกด้วย

[แก้] ข้อมูลส่วนตัวสิ่งที่ชอบพูด : ความทรนง
อาหารที่ชอบ : ทูน่า
สิ่งที่ไม่ชอบ : พวกที่ชอบเลียแข้งเลียขาบอสตัวเอง
สัตว์ที่ชอบ : ฉลาม
งานอดิเรก : ดูแลกับทำความสะอาดดาบ รองรับอารมณ์บอส
อายุ : 22 ปี
วันเกิด : 13 มีนาคม
ราศี : ราศีมีน
กรุ๊ปเลือด : โอ
ส่วนสูง : 182 เซน
น้ำหนัก : 75 กิโล
ประเทศที่เกิด : อิตาลี
[แก้] เทคนิคและอาวุธที่ใช้อาวุธ
สคลอโล่จะใช้ดาบที่ติดอยู่กับข้อมือตัวเองในการต่อสู้ โดยในดาบจะมีดินปืนอัดเอาไว้เมื่อเหวี่ยงดาบก็จะเกิดการระเบิดขึ้นทำให้สามารถโจมตีในระยะไกลได้ แท้ที่จริงแล้วดาบของเขาก็คือแขนเทียม เนื่องจากสควอโล่เสียมือข้างซ้ายจากต่อสู้กับเทพกระบี่ โดยแขนเทียมสามารถปลดออกและเปลี่ยนทิศได้ทำให้เขาสามารถโจมตีคู่ต่อสู้ในมุมบอดของตัวเองได้
อาวุธกล่อง
ฉลามพิรุณ สควอโล แกนเต พิออจฉา (อาโร) อาวุธกล่องรูปแบบฉลามที่มีไฟธาตุพิรุณห่อหุ้ม ในบรรดาอาวุธกล่องธาตุพิรุณถือว่ามีความดุร้ายและพลังทำลายติดอันดับต้นๆ เพียงแค่สัมผัสถูกผิวหนังของมันก็อาจจะถูกทำลายได้อย่างรุนแรงและถ้าถูกกัดจะลืมความเจ็บป่วยไปชั่วขณะด้วยคุณสมบัติระงับของไฟธาตุพิรุณ
ท่าไม้ตาย
สคอวโทร ดี สคอวโล่ (ฉลามบุกประจัญบาน) เป็นการเหวี่ยงดาบไปมาพร้อมกับพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว สามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า สควอโล่ใช้ท่านี้ในการกำจัดเทพกระบี่ ทูล
แอคแทคโก ดี สควอโล่ (ฉลามกระแทก ) เป็นการโจมตีด้วยการเหวี่ยงดาบที่หนักหน่วงทำให้คู่ต่อสู้เกิดการสั่นสะทือนทั่วร่างเพื่อทำให้ประสาทสัมผัสของอีกฝ่ายชาจนเคลื่อนไหวไม่ได้ชั่วขณะ
ซันนา ดี สควอโล่(เขี้ยวฉลาม) เป็นการแทงแหวกอากาศจำนวนนับไม่ถ้วนจนเหมือนกับเขี้ยวฉลาม
[แก้] บทบาทปฏิบัติการณ์บนเกาะมาเรเดียโวลา (พบเฉพาะในไลท์โนเวลเล่ม 2)
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเกือบหนึ่งเดือนก่อนจะเกิดศึกชิงแหวน โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากการบุกจู่โจมและยึดครองเกาะมาเรเดียโวลาของเหล่าทหารไม่ทราบสังกัด ซึ่งพวกเขาได้จับคนบนเกาะมาเป็นตัวประกันโดยภารกิจในการช่วยเหลือตัวประกันครั้งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของออตตาวิโอหัวหน้าระดับสูงของวองโกเล่และเป็นอดีตรองหัวหน้าของวาเรีย สควอโล่ได้รับคำสั่งจากซันซัสให้นำกองกำลังวาเรียระดับหัวหน้าที่เหลือบุกจู่โจมช่วยเหลือตัวประกัน เขาบุกจู่โจมบ้านพักที่คนร้ายใช้หลบซ่อนตัวประกันหร้อมกับเบลและได้สังหารคนร้ายทั้งหมดลงได้ และได้ทำภารกิจในการยึดผังวงจรของโกร่ามอสก้ามาจากทหารไว้ได้ พร้อมกับเผยความผิดของออตตาวิโอที่แอบซื้อขายอาวุธกับทหารอย่างลับๆจนเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ขึ้น
ศึกชิงแหวนธาตุพิรุณคู่ที่ 4
ศึกนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างยามาโมโตะและสเปลบี สควอโล่ สนามแข่งขันคือตึกเรียนที่ถูกแปรสภาพให้เหมือนเรือที่กำลังจะจมโดยจะมีน้ำจากแท้งก์น้ำด้านบนไหลลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นศึกที่เต็มไปด้วยน้ำถ้าน้ำอยู่ถึงระดับที่กำหนดก็จะมีสัตว์ทะเลดุร้ายออกมา ชื่อในสนามแข่งขันครั้งนี้มีชื่อว่า "อะควอเรียส" ในช่วงแรกสควอโล่เป็นฝ่ายได้เปรียบและรุกยามาโมโตะฝ่ายเดียวเนื่องจากสควอโล่เคยโค่นล้มสำนักชิงุเระโซเอ็นลงได้เมื่อครั้งอดีตทำให้เพลงดาบสำนักชิงุเระโซเอ็นของยามาโมโตะไม่ได้ผลเกือบทั้งหมด แต่หลังจากที่ยามาโมโตะใช้เพลงดาบชิงุเระโซเอ็นกระบวนท่ารุกลำดับที่8 "พิรุณกระหนำแทง" ทำร้ายสควอโล่ได้สำเร็จทำให้ยามาโมโตะสามารถพิสูจน์ได้ว่าเพลงดาบสำนักชิงุเระโซเอ็นเป้นเพลงดาบที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้สืบทอดแต่ละรุ่นคิดค้นขึ้นเป็นของตนเอง สุดท้ายสควอโล่ก็ถูกกระบวนท่ารุกที่ 9 "ฝนสะท้อนเงา" ที่ยามาโมโตะคิดค้นขึ้นทำให้เขากลายเป็นฝ่ายปราชัยไปในที่สุด สุดท้ายก็ถูกฉลามที่ถูกปล่อยออกมากินไปเพราะสควอโล่ไม่อยากเสียความภาคภูมิใจในฐานะนักดาบไปจากการช่วยเหลือของยามาโมโตะ
ศึกชิงแหวนธาตุนภารอบสุดท้าย
สควอโล่ที่น่าจะตายไปแล้วปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกรีบอร์นในสภาพที่บาดเจ็บสาหัสพร้อมกับดีโน่ ดีโน่ได้เล่าว่าเขาได้ช่วยสควอโล่ไว้ก่อนที่สควอโล่จะถูกฉลามกินเข้าไปและช่วยทำการรักษาอย่างสุดความสามารถจนสควอโล่รอดชีวิตมาได้ เขาได้ดูการต่อสู้ระหว่างสึนะกับซันซัสหลังจากที่ซันซัสถูกสึนะแช่แข็งเอาไว้ได้ สควอโล่ได้ทุรนทุรายออกจากรถเข็นเพื่อหวังที่ไปช่วยซันซัสแต่ถูกดีโน่ห้ามไว้ หลังจากที่ซันซัสถูกแหวนวองโกเล่ปฏิเสธสควอโล่ได้เล่าความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับตัวซันซัสให้กับทุกคนฟังและบอกว่าเขานั้นเข้าใจในตัวซันซัสดีและซันซัสจะไม่มีวันหยุดอยู่เท่านี้จนกว่าความปรารถนาของตัวเองจะเป็นจริง
ศึกยุทธศาสตร์ระหว่างวองโกเล่และมิลฟิโอเล่
ในศึกนี้สควอโล่มีบทบาทเพียงแค่นำกำลังไปคุ้มกันทางหนีทางทิศใต้ของปราสาทที่วาเรียยึดได้ เนื่องจากถูกกองกำลังที่นำโดยจิลหนึ่งในหกบุปผาอาลัยล้อมเอาไว้และเพราะศัตรูมีมากเกินไปทำให้สควอโล่ไม่สามารถปลีกตัวออกจากที่นั้นได้เลย ทำให้จิลและออลเกลท์บุกเข้าถึงตัวปราสาทได้อย่างง่ายดายแต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ตายด้วยฝีมือของซันซัส
Choise of the war
สควอโล่ที่รู้ถึงความพ่ายแพ้ของยามาโมโตะที่มีต่ออัศวินมายา เขาจึงโกรธมากถึงกับนั่งเรือของชาวประมงเดินทางจากอิตาลีมาถึงญี่ปุ่นเพื่อฝีกปรือยามาโมโตะให้เก่งกาจขึ้นสำหรับศึกใหม่ที่กำลังมาถึงและหลังจากจบศึกChoiseด้วยความพ่ายแพ้ของวองโกเล่ เขาก็เป็นตัวขัดขวางไม่ให้เบียคุรันสามารถพาตัวยูนิไปได้สำเร็จแต่หลังจากที่ซาคุโร่หนึ่งในหกบุปผาอาลัยตัวจริงบุกมายังฐานทัพวองโกเล่แล้วสควอโล่เป็นฝ่ายอาสาต้านซาคุโร่เพื่อให้พวกสึนะหนีออกไปได้ เขาก็แพ้ซาคุโร่อย่างง่ายดายเนื่องจากซาคุโร่รู้ถึงความสามารถของสควอโล่ที่ได้รับข้อมูลจากเบียคุรันมาเป็นอย่างดี แต่สุดท้ายเขาก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในสภาพบาดเจ็บสาหัสในศึกสุดท้ายของสึนะกับเบียคุรัน
ภาคการสืบทอดมรดก
สควอโล่มาในตัวแทนของซันซัสบอสของวาเรียในการเข้าร่วมงานพิธีสืบทอดวองโกเล่รุ่นที่สิบอย่างเป็นทางการของสึนะ หลังจากเกิดเหตุพวกชิมอนทำลายงานพิธีสควอโล่ได้นำพวกวาเรียเข้าช่วยเหลือแขกที่มาร่วมงาน ก่อนถูกอาวุธของอาเดลไฮด์หนึ่งในผู้พิทักษ์แห่งปฐพีของชิมอนหยุดการเคลื่อนไหวเอาไว้เพื่อไม่ให้ช่วยเหลือพวกสีนะ